ได้จัดหาและแปลงไฟล์ พระไตรปิฎก เสียงอ่าน ฉบับมหาจุฬาลงกรณ์ (เล่มสีฟ้า)
ซึ่งไฟล์ต้นฉบับ 100+ GB ลดลงจนเหลือ ขนาดไฟล์ 10+GB รูปแบบ acc และ mp3 หรือใส่ในแผ่น DVD3แผ่น พร้อมได้จัดส่งให้พระอุ่นจิตต์ เรียบร้อยแล้ว รอการอัพโหลดใน BitTorrent เพื่อแจกจ่ายต่อไป
วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2554
งานค้างรอทำให้เสร็จ
-รออัพเดท
1.คาดสีเขียวด้วยในวันเสาร์ อาทิตย์ ในตารางบัตรตอก โปรแกรม GreandAttendance
2.เก็บค่าสถิติ เมื่อเข้างานสาย 2 เวลา 07.30 08.00
3.เก็บ Bug โปรแกรม findendpromise เมื่อต้องการดูการ์ดแข็ง
4.เมื่อลูกค้าต่อสัญญาใหม่ให้ยกเลิกใบสัญญาเดิมทันที(รอการตัดสินใจอีกที)
1.คาดสีเขียวด้วยในวันเสาร์ อาทิตย์ ในตารางบัตรตอก โปรแกรม GreandAttendance
2.เก็บค่าสถิติ เมื่อเข้างานสาย 2 เวลา 07.30 08.00
3.เก็บ Bug โปรแกรม findendpromise เมื่อต้องการดูการ์ดแข็ง
4.เมื่อลูกค้าต่อสัญญาใหม่ให้ยกเลิกใบสัญญาเดิมทันที(รอการตัดสินใจอีกที)
วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
adwords
วิีธีการทำให้คะแนนคุณภาพ กลับมาเริ่มใหม่อีกครั้ง มี 2 วิธี ประสบการณ์ของผมเอง
เมื่อก่อนก่อนนำ้ท่วมกรุงเทพฯ ผมสามารถรีเซทคะแนนคุณภาพใหม่ได้ทุำกครั้งเมือต้องการทีคะแนนคุณภาพต่ำ ถึง 2-3 /10 แต่หลังจากน้ำท่วมไม่สามารถทำได้ในหัวข้อ 1 ผมจึงหาวิธีปราำกฎว่า ใช้รูปแบบที่ 2 ได้
1.ตั้งแคมเปญใหม่
2.ใช้ รูปแบบการทำงานของคำหลัก หลายแบบผสมกัน คุณสามารถตั้งค่าคำหลักให้มีตัวเลือกใดก็ได้ต่อไปนี้เพื่อที่คุณจะได้สามารถกำหนดผู้ที่จะเห็นโฆษณาของคุณได้ดีขึ้น ตัวเลือกทั้งสี่อย่างได้แก่:
การทำงานแบบกว้าง: อนุญาตให้โฆษณาของคุณแสดงเมื่อมีข้อความค้นหาที่ใช้วลีเหมือนกันและในรูปแบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
การทำงานแบบวลี: อนุญาตให้โฆษณาของคุณแสดงเมื่อมีข้อความค้นหาบางส่วนที่ตรงกับวลีทั้งหมด
เมื่อก่อนผมตั้งคำหลักแบบกว้างแต่ปัจจุบันไม่สามารถทำได้ โดยที่ำไม่ถึง max ของ แคมเปญ เพือให้รีเซตคะแนนคุณภาพใหม่ ให้เลือกรูปแบบคำหลักแบบวลีแทน ก็จะได้คะแนนคุณภาพ จากที่ทำได้ 9-10/10 เลยทีเ่ดียว ลองดูครับ
เมื่อก่อนก่อนนำ้ท่วมกรุงเทพฯ ผมสามารถรีเซทคะแนนคุณภาพใหม่ได้ทุำกครั้งเมือต้องการทีคะแนนคุณภาพต่ำ ถึง 2-3 /10 แต่หลังจากน้ำท่วมไม่สามารถทำได้ในหัวข้อ 1 ผมจึงหาวิธีปราำกฎว่า ใช้รูปแบบที่ 2 ได้
1.ตั้งแคมเปญใหม่
2.ใช้ รูปแบบการทำงานของคำหลัก หลายแบบผสมกัน คุณสามารถตั้งค่าคำหลักให้มีตัวเลือกใดก็ได้ต่อไปนี้เพื่อที่คุณจะได้สามารถกำหนดผู้ที่จะเห็นโฆษณาของคุณได้ดีขึ้น ตัวเลือกทั้งสี่อย่างได้แก่:
การทำงานแบบกว้าง: อนุญาตให้โฆษณาของคุณแสดงเมื่อมีข้อความค้นหาที่ใช้วลีเหมือนกันและในรูปแบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
การทำงานแบบวลี: อนุญาตให้โฆษณาของคุณแสดงเมื่อมีข้อความค้นหาบางส่วนที่ตรงกับวลีทั้งหมด
เมื่อก่อนผมตั้งคำหลักแบบกว้างแต่ปัจจุบันไม่สามารถทำได้ โดยที่ำไม่ถึง max ของ แคมเปญ เพือให้รีเซตคะแนนคุณภาพใหม่ ให้เลือกรูปแบบคำหลักแบบวลีแทน ก็จะได้คะแนนคุณภาพ จากที่ทำได้ 9-10/10 เลยทีเ่ดียว ลองดูครับ
วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
style of css ของ chrome
โค้ดจาก ie
<body id="showsalary_body" style={background-image:url('gradient2.png');background-repeat:repeat-x;} >
แ้เก้เป็น ดังข้างล่างเมื่อใช้กับ chrome (เครื่องหมาย { เปลี่ยนเป็น " แทน หรือ จาก " เป็น ' แทน)
<body id="showsalary_body" style="background-image:url('gradient2.png');background-repeat:repeat-x;" >
<body id="showsalary_body" style={background-image:url('gradient2.png');background-repeat:repeat-x;} >
แ้เก้เป็น ดังข้างล่างเมื่อใช้กับ chrome (เครื่องหมาย { เปลี่ยนเป็น " แทน หรือ จาก " เป็น ' แทน)
<body id="showsalary_body" style="background-image:url('gradient2.png');background-repeat:repeat-x;" >
วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
detect chrome browser
โค้ดข้างล่าง ไว้สำหรับ detect chrome browser แยกขาด safari
$(document).ready(
unction(){
if ($.browser.mozilla && $.browser.version >= "2.0" ){
alert('Mozilla above 1.9');
}
if( $.browser.safari ){
var is_chrome = /chrome/.test( navigator.userAgent.toLowerCase() );
if( is_chrome )
{
alert('Chrome');
}
else
{
alert('Safari');
}
}
if( $.browser.opera){
alert('Opera');
}
if ($.browser.msie && $.browser.version <= 6 ){
alert('IE 6 or below version');
}
if ($.browser.msie && $.browser.version > 6){
alert('IE above 6');
}
}
-ข้างล่างคือ ความรู้ื
On my Windows XP, with Chrome and Safari installed, I noticed that Google Chrome gives me this user agent:
"Mozilla/5.0 (Windows; U; Windows NT 5.1; en-US) AppleWebKit/532.5 (KHTML, like Gecko) Chrome/4.1.249.1064 Safari/532.5"
This means that if you try to detect Safari only, you'll have to check that it doesn't contain "Chrome" :
// A quick solution without using regexp (to speed up a little).
var userAgent = navigator.userAgent.toString().toLowerCase();
if ((userAgent.indexOf('safari') != -1) && !(userAgent.indexOf('chrome') != -1)) {
alert('We should be on Safari only!');
}
เพิ่มเติม
$(document).ready(
unction(){
if ($.browser.mozilla && $.browser.version >= "2.0" ){
alert('Mozilla above 1.9');
}
if( $.browser.safari ){
var is_chrome = /chrome/.test( navigator.userAgent.toLowerCase() );
if( is_chrome )
{
alert('Chrome');
}
else
{
alert('Safari');
}
}
if( $.browser.opera){
alert('Opera');
}
if ($.browser.msie && $.browser.version <= 6 ){
alert('IE 6 or below version');
}
if ($.browser.msie && $.browser.version > 6){
alert('IE above 6');
}
}
-ข้างล่างคือ ความรู้ื
On my Windows XP, with Chrome and Safari installed, I noticed that Google Chrome gives me this user agent:
"Mozilla/5.0 (Windows; U; Windows NT 5.1; en-US) AppleWebKit/532.5 (KHTML, like Gecko) Chrome/4.1.249.1064 Safari/532.5"
This means that if you try to detect Safari only, you'll have to check that it doesn't contain "Chrome" :
// A quick solution without using regexp (to speed up a little).
var userAgent = navigator.userAgent.toString().toLowerCase();
if ((userAgent.indexOf('safari') != -1) && !(userAgent.indexOf('chrome') != -1)) {
alert('We should be on Safari only!');
}
เพิ่มเติม
The negative side of having a new (and promisingly become popular) browser, no matter how good it can be, is you’ll have to test your web apps with it among many others.
Probably, the first step is to detect the browser from JavaScript code by parsing browser’s user agent, and here is what of Google Chrome.
Mozilla/5.0 (Windows; U; Windows NT 5.1; en-US) AppleWebKit/525.13 (KHTML, like Gecko) Chrome/0.2.149.27 Safari/525.13
I guess old JavaScript codes can mistakenly tell it Safari like when running the code snippet below using JQuery’s browser utility.
1 2 3 4 | $.each($.browser, function(i, val) { $("<div>" + i + " : <span>" + val + "</span></div>") .appendTo(document.body); }); |
It may be no problem until you find something wrong when your apps running on Chrome only. So, here is the code line to detect Chrome generally:
1 | var is_chrome = /chrome/.test( navigator.userAgent.toLowerCase() ); |
We’ll have to change the JQuery browser utility to support Chrome detection as follows:
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 | var userAgent = navigator.userAgent.toLowerCase(); // Figure out what browser is being used jQuery.browser = { version: (userAgent.match( /.+(?:rv|it|ra|ie|me)[\/: ]([\d.]+)/ ) || [])[1], chrome: /chrome/.test( userAgent ), safari: /webkit/.test( userAgent ) && !/chrome/.test( userAgent ), opera: /opera/.test( userAgent ), msie: /msie/.test( userAgent ) && !/opera/.test( userAgent ), mozilla: /mozilla/.test( userAgent ) && !/(compatible|webkit)/.test( userAgent ) }; |
Now, correct result shows on test screen:
Just one notice: Current version of JQuery (1.2.6) is treating Chrome as if it was Safari and basically no serious problem has been found yet. Modifying browser detection can cause the lib render pages/elements incorrectly for it has no knowledge of Chrome’s rendering engine. To keep compatibility, you can change line 7 back to:
7 | safari: /webkit/.test( userAgent ), |
But in this case the browser will be detected as both Chrome and Safari — not nice solution, I accept.
Anyway, it’s very likely that JQuery and other JavaScript frameworks will include Chrome to browser list for detection in next versions.
ie8 แสดงผล ie7 webpage ไม่ถูกต้อง
ให้เพิ่ม meta tag เข้าไปในส่วน head มีผลเฉพาะ page ที่่ต้องการ ทำ emulate ie7 เท่านั้น
<head>
<!-- Use IE7 mode -->
<meta http-equiv="X-UA-Compatible" content="IE=EmulateIE7" />
(1/1)
ijeed:
ลักษณะของปัญหา
คุณอาจจะพบอาการเหล่านี้เมื่อเปิดใช้งานเว็บไซต์จาก Microsoft Internet Explorer 8 Beta 1
การจัดวางเว็บไซต์ที่ผิดเพี้ยน
การจัดเรียงข้อความหรือรูปที่ทับซ้อนกัน
ปัญหาที่เกี่ยวกับการใช้งาน JavaScript
สาเหตุ
ปัญหาเหล่านั้นเกิดขึ้นเนื่องจาก Internet Explorer Beta 8 Beta 1 นั้นเรียกดูเว็บเพจโดยใช้ Standards Mode ที่ปรับปรุงใหม่ล่าสุด ในขณะที่เว็บเพจนั้นถูกสร้างขึ้นมาสำหรับการเรียกดูจาก Internet Explorer 7
เพื่อตรวจสอบดูว่าปัญหาของคุณเกิดจาก Internet Explorer 8 Standards Mode จริงโปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
เปิดโปรแกรม Internet Explorer 8 Beta 1
หมายเหตุ หากคุณยังไม่ได้ติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 1 โปรดเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่
http://www.microsoft.com/windo...winfamily/ie/ie8/getitnow.mspx
คลิกที่ Emulate IE 7 บนเมนูบาร์และจากนั้นคลิกปิดหน้าต่างบราวเซอร์ของคุณ
เปิดโปรแกรม Internet Explorer 8 Beta 1 และตรวจดูว่ามีการเปิดใช้งาน Emulate IE 7 อยู่ จากนั้นเข้าไปยังหน้าเว็บเพจที่คุณต้องการ
ตรวจดูว่าเว็บเพจนั้นมีการแสดงผลที่ถูกต้องหรือไม่
คลิกที่ Emulate IE 7 เพื่อ disable การจำลองการเปิดใช้งานจาก Internet Explorer 7 จากนั้นปิดหน้าต่างบราวเซอร์ลง
เปิดโปรแกรม Internet Explorer 8 Beta 1 และเข้าไปดูที่หน้าเว็บเพจนั้นอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าปัญหาของคุณยังคงเป้นอยู่หลังจาก disable ฟังก์ชันการจำลองการเปิดใช้งานจาก Internet Explorer 7 แล้ว
การแก้ไข
เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านั้น เจ้าของเว็บไซต์และเว็บแอ็ดมินสามารถเพิ่ม meta-tag เพื่อสั่งให้ Internet Explorer 8 Beta 1 แสดงผลได้ถูกต้องเหมือนเรียกดูจาก Internet Explorer 7 นั่นคือสามารถสั่งให้ Internet Explorer สามารถเรียกดูเว็บเพจนั้นจาก Internet Explorer 7 (Strict) mode หรือ Internet Explorer 5 (Quirk) mode ได้เหมือนกัน แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับมาตรฐานของเอกสารที่สร้างขึ้นบนหน้าเว็บเพจนั้นๆ ด้วย
หมายเหตุ การเปิดความสามารถใน Internet Explorer 7compatibility tag นั้นจะช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ แต่อย่างไรก็ตาม อาจจะต้องทำการอัพเกรดเว็บไซต์ของคุณ โดยสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จาก http://www.microsoft.com/windo...adiness/DevelopersExisting.htm
คุณสามารถเลือกตั้งค่า Internet Explorer 8 Beta 1 เพื่อให้สามารถเปิดดูเว็บเพจได้เสมือนเรียกดูจาก Internet Explorer 7 ตามทางเลือกต่อไปนี้
การตั้งค่าทั้งไซต์ (Per-Site Basis)
เจ้าของเว็บไซต์และเว็บแอ็ดมินสามารถเพิ่ม custom HTTP header เหล่านี้ลงไปเพื่อสั่งให้ Internet Explorer 8 Beta 1 อ่านเว็บเพจได้เหมือน Internet Explorer 7 ดังนี้
X-UA-Compatible: IE=EmulateIE7
ในการเพิ่ม custom HTTP response header ลงไปทั้งเว็บไซต์ใน Internet Information Services 7 บน Windows Server 2008 นั้น โปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
คลิก start และคลิก Administrative Tool จากนั้นคลิก click Internet Information Services (IIS) Manager
ภายใต้ Connections ให้ดับเบิ้ลคลิกเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่คุณต้องการและดับเบิ้ลคลิกที่ Sites
คลิกที่เว็บไซต์ที่คุณต้องการเพิ่ม custom HTTP response header
ภายใต้หัวข้อ Web site name Home ให้ดับเบิ้ลคลิกที่ HTTP response header ใน IIS Section
หมายเหตุ ในขั้นตอนนี้ web site name คือชื่อของเว็บไซต์ที่คุณต้องการ
ภายใต้ Actions คลิกที่ Add
ใน Name box พิมพ์ X-UA-Compatible
ใน Value box พิมพ์ IE=EmulateIE7
ในการเพิ่ม custom HTTP response header ลงไปทั้งเว็บไซต์ใน Internet Information Services 6 และเวอร์ชั่นก่อนหน้า โปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
คลิก Start คลิก Run คลิก inetmgr.exe จากนั้นคลิก OK
ขยายเวิร์ฟเวอร์ที่คุณต้องการจากนั้นเลือก expand Web Sites
คลิกขวาที่เว็บไซต์ที่คุณต้องการและจากนั้นคลิกเลือก Properties
ภายใต้ Custom HTTP คลิกเลือก Add
ใน Name box พิมพ์ X-UA-Compatible
ใน Value box พิมพ์ IE=EmulateIE7
คลิก OK สองครั้ง
การตั้งค่าของแต่ละหน้าเว็บเพจ (Per-Page Basis)
เจ้าของเว็บไซต์และเว็บแอ็ดมินสามารถเพิ่ม HTML tag ไว้หลังแท็ก <Head> บนหน้าเว็บดังนี้
<meta http-equiv="X-UA-Compatible" content="IE=EmulateIE
โปรดศึกษาตัวอย่างการใช้งานแท็กสำหรับการใช้งาน this Internet Explorer 7 compatibility เพื่อการตั้งค่าแบบต่อหน้าเว็บเพจดังนี้
โค๊ด:
<html>
<head>
<!-- Use IE7 mode -->
<meta http-equiv="X-UA-Compatible" content="IE=EmulateIE7" />
<title>My Web Page</title>
</head>
<body>
<p>Content goes here.</p>
</body>
</html>
ทดสอบเว็บไซต์ของคุณด้วย meta-tag
เพื่อตรวจสอบว่าคุณได้ติดตั้งแท็กอย่างถูกต้อง โปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อยืนยันการตั้งค่าของคุณ
หากคุณยังไม่ได้ติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 1 สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่ http://www.microsoft.com/windo...winfamily/ie/ie8/getitnow.mspx
ดาวน์โหลด Internet Explorer 8 Beta 1 security update ตามที่มีอธิบายไว้ใน Microsoft Knowledge Base บทความหมายเลข 951804 การอัพเดทนี้จะช่วยเพิ่มการสนับสนุนให้แก่ IE=EmulateIE7 tag ของคุณ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูบทความดังกล่าวได้ที่ 951804 MS08-031: Security update for Internet Explorer 8 Beta 1
เรียกดูเว็บไซต์ด้วย Internet Explorer 8 Standards mode และตรวจสอบว่าปัญหาของคุณได้รับการดำเนินการแก้ไขแล้ว
สำหรับผู้ใช้
ผู้ใช้ Internet Explorer 8 Beta 1 สามารถแก้ไขปัญหาการเรียกดูเว็บเพจได้โดยคลิกที่ Emulate IE7 บนเมนูบาร์ของหน้าบราวเซอร์ของคุณ เมื่อ Emulate IE7 button ถูกเปิดใช้งานแล้ว เว็บเพจจะถูกเรียกดูจาก Internet Explorer 7 Standards mode
ไมโครซอฟท์ให้ตัวอย่างของการเขียนโปรแกรมเพื่อใช้ในการสาธิตเท่านั้น ไม่ได้ถือเป็นการรับรองหรือกล่าวเป็นนัยใดๆ ซึ่งรวมถึงไม่ได้รับรองการใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะอย่างใดๆ เนื้อหาในบทความนี้ออกมาสำหรับผู้ที่มีความคุ้นเคยกับการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์และคุ้นเคยกับเครื่องมือในการใช้งานและกระบวนการของการแก้ไขปัญหาเป็นอย่างดี ทีม Microsoft support engineer สามารถช่วยอธิบายฟังก์ชันการใช้งานของกระบวนการทั้งหมดให้แก่คุณได้ แต่จะไม่ปรับแต่งตัวอย่างที่สาธิตด้วยการเพิ่มฟังก์ชันหรือสร้างกระบวนการเพื่อการใช้งานตามความต้องการของคุณแต่อย่างไร
ข้อมูลเพิ่มเติม
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสามารถในการใช้งานที่เข้ากันได้ (compatibility) ของโปรแกรม Internet Explorer 8 Beta 1 โปรดเข้าไปดูได้ที่
http://msdn2.microsoft.com/en-...s/library/cc288325(VS.85).aspx
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Cascading Style Sheets Compatibility ในการใช้งาน Internet Explorer โปรดเข้าไปดูที่
http://msdn2.microsoft.com/en-...s/library/cc351024(VS.85).aspx
สามารถใช้งานได้กับ
Windows Internet Explorer 8 Beta
เห็นว่ามีประโยชน์เลยเอามาฝากเว็บมาสเตอร์ทุกท่านครับ
อ้างอิงจาก / แหล่งที่มา : http://support.microsoft.com/gp/ie8_beta/th
<head>
<!-- Use IE7 mode -->
<meta http-equiv="X-UA-Compatible" content="IE=EmulateIE7" />
อ้างอิง :http://www.thaiseoboard.com/index.php?topic=65782.0;wap2
(1/1)
ijeed:
ลักษณะของปัญหา
คุณอาจจะพบอาการเหล่านี้เมื่อเปิดใช้งานเว็บไซต์จาก Microsoft Internet Explorer 8 Beta 1
การจัดวางเว็บไซต์ที่ผิดเพี้ยน
การจัดเรียงข้อความหรือรูปที่ทับซ้อนกัน
ปัญหาที่เกี่ยวกับการใช้งาน JavaScript
สาเหตุ
ปัญหาเหล่านั้นเกิดขึ้นเนื่องจาก Internet Explorer Beta 8 Beta 1 นั้นเรียกดูเว็บเพจโดยใช้ Standards Mode ที่ปรับปรุงใหม่ล่าสุด ในขณะที่เว็บเพจนั้นถูกสร้างขึ้นมาสำหรับการเรียกดูจาก Internet Explorer 7
เพื่อตรวจสอบดูว่าปัญหาของคุณเกิดจาก Internet Explorer 8 Standards Mode จริงโปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
เปิดโปรแกรม Internet Explorer 8 Beta 1
หมายเหตุ หากคุณยังไม่ได้ติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 1 โปรดเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่
http://www.microsoft.com/windo...winfamily/ie/ie8/getitnow.mspx
คลิกที่ Emulate IE 7 บนเมนูบาร์และจากนั้นคลิกปิดหน้าต่างบราวเซอร์ของคุณ
เปิดโปรแกรม Internet Explorer 8 Beta 1 และตรวจดูว่ามีการเปิดใช้งาน Emulate IE 7 อยู่ จากนั้นเข้าไปยังหน้าเว็บเพจที่คุณต้องการ
ตรวจดูว่าเว็บเพจนั้นมีการแสดงผลที่ถูกต้องหรือไม่
คลิกที่ Emulate IE 7 เพื่อ disable การจำลองการเปิดใช้งานจาก Internet Explorer 7 จากนั้นปิดหน้าต่างบราวเซอร์ลง
เปิดโปรแกรม Internet Explorer 8 Beta 1 และเข้าไปดูที่หน้าเว็บเพจนั้นอีกครั้งเพื่อยืนยันว่าปัญหาของคุณยังคงเป้นอยู่หลังจาก disable ฟังก์ชันการจำลองการเปิดใช้งานจาก Internet Explorer 7 แล้ว
การแก้ไข
เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านั้น เจ้าของเว็บไซต์และเว็บแอ็ดมินสามารถเพิ่ม meta-tag เพื่อสั่งให้ Internet Explorer 8 Beta 1 แสดงผลได้ถูกต้องเหมือนเรียกดูจาก Internet Explorer 7 นั่นคือสามารถสั่งให้ Internet Explorer สามารถเรียกดูเว็บเพจนั้นจาก Internet Explorer 7 (Strict) mode หรือ Internet Explorer 5 (Quirk) mode ได้เหมือนกัน แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับมาตรฐานของเอกสารที่สร้างขึ้นบนหน้าเว็บเพจนั้นๆ ด้วย
หมายเหตุ การเปิดความสามารถใน Internet Explorer 7compatibility tag นั้นจะช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ แต่อย่างไรก็ตาม อาจจะต้องทำการอัพเกรดเว็บไซต์ของคุณ โดยสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จาก http://www.microsoft.com/windo...adiness/DevelopersExisting.htm
คุณสามารถเลือกตั้งค่า Internet Explorer 8 Beta 1 เพื่อให้สามารถเปิดดูเว็บเพจได้เสมือนเรียกดูจาก Internet Explorer 7 ตามทางเลือกต่อไปนี้
การตั้งค่าทั้งไซต์ (Per-Site Basis)
เจ้าของเว็บไซต์และเว็บแอ็ดมินสามารถเพิ่ม custom HTTP header เหล่านี้ลงไปเพื่อสั่งให้ Internet Explorer 8 Beta 1 อ่านเว็บเพจได้เหมือน Internet Explorer 7 ดังนี้
X-UA-Compatible: IE=EmulateIE7
ในการเพิ่ม custom HTTP response header ลงไปทั้งเว็บไซต์ใน Internet Information Services 7 บน Windows Server 2008 นั้น โปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
คลิก start และคลิก Administrative Tool จากนั้นคลิก click Internet Information Services (IIS) Manager
ภายใต้ Connections ให้ดับเบิ้ลคลิกเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่คุณต้องการและดับเบิ้ลคลิกที่ Sites
คลิกที่เว็บไซต์ที่คุณต้องการเพิ่ม custom HTTP response header
ภายใต้หัวข้อ Web site name Home ให้ดับเบิ้ลคลิกที่ HTTP response header ใน IIS Section
หมายเหตุ ในขั้นตอนนี้ web site name คือชื่อของเว็บไซต์ที่คุณต้องการ
ภายใต้ Actions คลิกที่ Add
ใน Name box พิมพ์ X-UA-Compatible
ใน Value box พิมพ์ IE=EmulateIE7
ในการเพิ่ม custom HTTP response header ลงไปทั้งเว็บไซต์ใน Internet Information Services 6 และเวอร์ชั่นก่อนหน้า โปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
คลิก Start คลิก Run คลิก inetmgr.exe จากนั้นคลิก OK
ขยายเวิร์ฟเวอร์ที่คุณต้องการจากนั้นเลือก expand Web Sites
คลิกขวาที่เว็บไซต์ที่คุณต้องการและจากนั้นคลิกเลือก Properties
ภายใต้ Custom HTTP คลิกเลือก Add
ใน Name box พิมพ์ X-UA-Compatible
ใน Value box พิมพ์ IE=EmulateIE7
คลิก OK สองครั้ง
การตั้งค่าของแต่ละหน้าเว็บเพจ (Per-Page Basis)
เจ้าของเว็บไซต์และเว็บแอ็ดมินสามารถเพิ่ม HTML tag ไว้หลังแท็ก <Head> บนหน้าเว็บดังนี้
<meta http-equiv="X-UA-Compatible" content="IE=EmulateIE
โปรดศึกษาตัวอย่างการใช้งานแท็กสำหรับการใช้งาน this Internet Explorer 7 compatibility เพื่อการตั้งค่าแบบต่อหน้าเว็บเพจดังนี้
โค๊ด:
<html>
<head>
<!-- Use IE7 mode -->
<meta http-equiv="X-UA-Compatible" content="IE=EmulateIE7" />
<title>My Web Page</title>
</head>
<body>
<p>Content goes here.</p>
</body>
</html>
ทดสอบเว็บไซต์ของคุณด้วย meta-tag
เพื่อตรวจสอบว่าคุณได้ติดตั้งแท็กอย่างถูกต้อง โปรดทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อยืนยันการตั้งค่าของคุณ
หากคุณยังไม่ได้ติดตั้ง Internet Explorer 8 Beta 1 สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่ http://www.microsoft.com/windo...winfamily/ie/ie8/getitnow.mspx
ดาวน์โหลด Internet Explorer 8 Beta 1 security update ตามที่มีอธิบายไว้ใน Microsoft Knowledge Base บทความหมายเลข 951804 การอัพเดทนี้จะช่วยเพิ่มการสนับสนุนให้แก่ IE=EmulateIE7 tag ของคุณ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูบทความดังกล่าวได้ที่ 951804 MS08-031: Security update for Internet Explorer 8 Beta 1
เรียกดูเว็บไซต์ด้วย Internet Explorer 8 Standards mode และตรวจสอบว่าปัญหาของคุณได้รับการดำเนินการแก้ไขแล้ว
สำหรับผู้ใช้
ผู้ใช้ Internet Explorer 8 Beta 1 สามารถแก้ไขปัญหาการเรียกดูเว็บเพจได้โดยคลิกที่ Emulate IE7 บนเมนูบาร์ของหน้าบราวเซอร์ของคุณ เมื่อ Emulate IE7 button ถูกเปิดใช้งานแล้ว เว็บเพจจะถูกเรียกดูจาก Internet Explorer 7 Standards mode
ไมโครซอฟท์ให้ตัวอย่างของการเขียนโปรแกรมเพื่อใช้ในการสาธิตเท่านั้น ไม่ได้ถือเป็นการรับรองหรือกล่าวเป็นนัยใดๆ ซึ่งรวมถึงไม่ได้รับรองการใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะอย่างใดๆ เนื้อหาในบทความนี้ออกมาสำหรับผู้ที่มีความคุ้นเคยกับการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์และคุ้นเคยกับเครื่องมือในการใช้งานและกระบวนการของการแก้ไขปัญหาเป็นอย่างดี ทีม Microsoft support engineer สามารถช่วยอธิบายฟังก์ชันการใช้งานของกระบวนการทั้งหมดให้แก่คุณได้ แต่จะไม่ปรับแต่งตัวอย่างที่สาธิตด้วยการเพิ่มฟังก์ชันหรือสร้างกระบวนการเพื่อการใช้งานตามความต้องการของคุณแต่อย่างไร
ข้อมูลเพิ่มเติม
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสามารถในการใช้งานที่เข้ากันได้ (compatibility) ของโปรแกรม Internet Explorer 8 Beta 1 โปรดเข้าไปดูได้ที่
http://msdn2.microsoft.com/en-...s/library/cc288325(VS.85).aspx
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Cascading Style Sheets Compatibility ในการใช้งาน Internet Explorer โปรดเข้าไปดูที่
http://msdn2.microsoft.com/en-...s/library/cc351024(VS.85).aspx
สามารถใช้งานได้กับ
Windows Internet Explorer 8 Beta
เห็นว่ามีประโยชน์เลยเอามาฝากเว็บมาสเตอร์ทุกท่านครับ
อ้างอิงจาก / แหล่งที่มา : http://support.microsoft.com/gp/ie8_beta/th
วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
hack c++
http://www.mpcforum.com/showthread.php?23833-First-time-help-tutorial
How/Where to start learning C++!!
If you are new to coding hacks you will obviously need a little help and encouragement to begin, here is some help and resources which will help you on your way!
Stage 1 (day 1-15 )
Well you know nothing. Most people start with a programming language called C++ (pronounced 'C plus plus'). It is a very powerful language and there is alot of support for the language. You should spend the first stage not learning how to code hacks, but how to simply write C++ programs.
Get hold of a good book. I recommend 'SAMS Teach yourself C++ in 21 days'. Another tool which you will need is a compiler.
Recommended Compilers:
MS Visual C++ 6
Dev-CPP 5 (FREE)
Spend the first 14 days reading through the book. It is important that you understand the first week off by heart or you will not be able to code your own hacks.
Useful Links
http://msdn.microsoft.com/library/en...L/pluslang.asp
http://www.cprogramming.com
Stage 2 (day 15-20)
Now you have some understanding of C++ you have two choices. You can continue to read on or you can start learning some OpenGL. OpenGL hooking is controlling how your code controls the game - your code is called rather than the game's code.
Again, you shouldn't be learning to code hacks unless you feel comfortable. Head off to NeHe's sitewhich offers some great OpenGL tutorials. Again you do not need to read many tutoritals here, I recommend up to lesson 10.
Useful Links
http://nehe.gamedev.net/
http://msdn.microsoft.com/library/en...start_9uw5.asp
Stage 3 (day 20-30 )
Feel like youre getting somewhere? If you havent already due to the feeling of experimentation and exploration, take a look at other people's source code. Looking at the source codes is a good way to see how everything is structured.
You should be learning how to create hacks for games now. I have found that learning to hack counter-strike is a great starting point. I dont like counter-strike myself and I am a quake man, but most tutorials are based around counter-strike and there is a big community for counter-strike hacking so there is alot more support. So once you know the basics with counter-strike hacking you can move on to the game of your choice because chances are they will be similar.
Get hold of an OpenGL wrapper. Although most OpenGL wrappers are VAC detected, it doesnt harm to use and experiment with these offline on a LAN game. More about OpenGL wrappers...
Useful Links:
http://web1.server126.notraffic.de/f...5&pagenumber=1
http://web1.server126.notraffic.de/f...&threadid=8987
http://193.111.198.91/site/test2.php?site=Tutorials
And the MPC coding forums!
Stage 4 (day 30+)
You should now have a very good understanding of how hacks work. Now its up to you what you decide to do.
Perhaps you wish to start coding for the game of your choice. Dont forget the MPC forums are a valuable resource for any coder.
If you want to go another step in the learning process then learning about ASM is a good choice.
If all this has scared you then maybe you should revise the languages a bit more or go back and read the bits you left out.
If the cheating scene doesnt interest you any more and you just want to code then do just that.
Either roads offer fun and exciting new things.
Advanced
Winamp Control: http://www.winamp.com/nsdn/winamp2x/dev/sdk/api.jhtml
ASM: http://web1.server126.notraffic.de/f...threadid=17424
Tips
Taking notes of important topics is a great way to learn something. Try to make it precise but brief and it will surely help you because you are not just reading but you are involving your brain
KaZaa is a great tool. However, warez is not promoted and nor should it be discussed within the MPC forums, doing so will lead to a ban.
Dont feel stupid to post any questions you have on forums. Its a great, easy and fast way to solve any problems you have, and dont worry about getting flamed, the people that do flame are complete n00b wannab h4x0rs
Well that was fun By the way, the estimated time in days was just an estimate so please will the more elite coders not flame me but feel free to add anything
Please leave credits if this is going to appear anywhere else.
// sauce
วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2554
เงินของคุณจะเข้าสู่บัญชี AdWords ภายในเวลา 2-3 วัน
| แสดงรายละเอียด 27 ต.ค. (2 วันที่ผ่านมา) |
สวัสดีค่ะ คุณศักดิ์สิทธิ์
ขออภัยที่คุณประสบปั
กรณีเงินไม่เข้า ให้ ส่งหลักฐานการชำระเงิน
link forum เพื่อโฟสแจ้ง ปัญหา และตอบ อลิส(จนท กูเ้กิล)
วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2554
sbobet เข้าไม่ได้
เคยบางไหม สักวันเข้า sbobet ไม่ได้
เข้าเวปแล้วมี popup ขึ้น page expired
(ผมไม่ได้เล่นนะครับ sbobet แต่เคยแก้ไขให้กับผู้เ่ล่นคนหนึ่ง)
แ้ก้ไข วันเวลา ในระบบ ไม่ update หรือย้อนหลัง ให้ปรับแก้ไขวันเวลาให้เป็นปัจจุบัน
เข้าเวปแล้วมี popup ขึ้น page expired
(ผมไม่ได้เล่นนะครับ sbobet แต่เคยแก้ไขให้กับผู้เ่ล่นคนหนึ่ง)
แ้ก้ไข วันเวลา ในระบบ ไม่ update หรือย้อนหลัง ให้ปรับแก้ไขวันเวลาให้เป็นปัจจุบัน
วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2554
hotmail ถูก block
ปัญหา
้็้hotmail ถูกบล็อค เนื่องจาก spam
แล้วมันถูกบล็อคได้อย่างไร
เมื่อสอบถามผู้ใช้เมล์แล้ว ปรากฎว่า ได้ให้หรือใส่ รหัสผ่านเมล์ ให้แก่เวปบางเวป หลังจากนั้นอีกวัน
ทาง hotmail บอกว่ามี แสปม และได้ block ไว้
แก้ไข
เมื่อเข้า hotmail แล้ว จะมีข้อความแจ้งให้ดำเนินการต่อเพื่อปลดบล็อค โดยทาง hotmail จะส่งรหัสปลดให้
กับ email ของเจ้าของทีเคยลงทะเบียน email อีก 1 address กรณีเกิดปัญหา และเมื่อได้รหัสที่ได้รับมาแล้ว
ให้มากรอกใส่ ในชอ่ง รับรหัส และทาง hotmail จะให้ตั้งรหัสผ่านใหม่อีก จะใช้รหัสเดิมไม่ได้
วิธีแก้เปิดเฉพาะเวป mail ไม่ได้ ใน ie8
case study
ปัญหา เปิด เวปmail google หรือ hotmail ไม่ได้ใน ie8 แต่เข้า เวปปรกติอื่นๆได้เช่น google หน้าแรก หรือ mthai.com และอื่นๆ
แก้ไข
หรือ กรณี เข้าhotmail ไม่ได้ ลองเข้า login.live.com ดู
ปัญหา เปิด เวปmail google หรือ hotmail ไม่ได้ใน ie8 แต่เข้า เวปปรกติอื่นๆได้เช่น google หน้าแรก หรือ mthai.com และอื่นๆ
แก้ไข
- เข้ากับ firefox browser ดูว่าเข้าได้ไหม
- ลอง clear cache ดู ของ ie8
- เปลี่ยน dns ใหม่
- ลด security ลง ในส่วน internet ของ ie8
หรือ กรณี เข้าhotmail ไม่ได้ ลองเข้า login.live.com ดู
วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554
Software Link
รายการโปรแกรมต่างๆ
1.webcamXP Pro Ver. 5.5.0.3 Build 33024.rar (พร้อมแครก)
โปรแกรม บันทึกวีดีโอ จากกล้อง webcam
วันเสาร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2554
ตั้งค่าให้ใช้ เนตหอร่วม mac address เดียวกัน
อุปกรณ์ hub 5 port 1 ตัว , สาย แลน , ตัว wireless usb 1 ตัว เป็นตัว ไว้ลง ทะเบียน mac address กับทางหอพัก
1.โดยให้เริ่มเปิด แชร์ net ที่ตัว wireless (connection sharing)
2.ตั้ง iplan และกำหนดให้ชี้ gateway ไปที่ wireless
ถ้าหากว่า เชื่อมต่อ ip lan เดิมไม่ได้ ให้ลองเปลี่ยน iplan ใหม่เป็น 192.168.2.1 ไปเรื่อยๆ แล้วให้ สั่ง repair wireless ใหม่ ทอสอบเข้าเนตดู ถ้าได้ก็สำเร็จแล้ว สังเกตว่า default gateway ของ wireless ต้องเป็น 192.168.182.1 เท่านั้น ไม่ใช่ ip ที่ dhcp มา ถ้าเครื่องนี้เข้าได้ เครื่องอื่นๆที่มาเชื่อม lan ก็จะเข้าได้ โดยเปลี่ยน ip lan ให้อยู่ class เดียวกับ ของเครื่องที่ทำเป็น gateway เช่น เครื่อง gateway เป็น 192.168.2.1 เครื่อง ที่เชื่อมต่อจาก hub อื่นๆ ตั้งเป็น 192.168.2.2 หรือ 192.198.2.3 ไปเรื่อยๆ และถ้าหากครั้งหน้าเปิดใช้ wireless ใหม่และเข้าไม่ได้ก็ให้ตั้ง iplan เครื่อง gateway ใหม่ด้วย iplan class ใหม่อีกครั้ง เช่น 192.168.5.1 แล้ว repair wireless อีกครั้ง แล้วลองเข้าเนตดู
ภาพด้านล่างแสดงให้เห็นว่า ลำดับที่ 140 มีการ login โดยใช้ mac address ตัวหลักหรือตัวที่ลงทะเบียนกับกับเนตหอ (แต่ จริงๆ มีเครื่องร่วมกันใช้ในเวลาเดียวกัน 3 เครื่อง โดยที่ไม่ปรากฏ mac address)
วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554
iis7 กับ asp
ต้องการใช้ asp บน windows 7 จะต้องกำหนดค่า ใน iis เลือกใช้ asp asp.net อื่นๆที่ต้องการก่อน
ใน windows on or off
ใน windows on or off
วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554
clone ghost unmont
clone ghost unmont
case study 26/8/54
เมื่อทำการ clone hd แล้ว พบว่า มองไม่เห็น partition of slave hd เพราะไม่ได้ mount
จะใช้ patition magic ดูก็ไม่เห็น partition ที่ clone มา ใช้ tools ใน hiren ชื่อ find partition and mount ก็ได้แค่เห็นว่า มี partition ที่ clone มาแต่ไม่สามารถทำให้ visible ได้
แต่พบ tools ชื่อ disk genius 3.2 ก็สามารถ เรียกใช้ partition ที่ไม่ได้ unmount ได้ โดยทำ rebuild or restore formated partition
เมื่อทำการ clone hd แล้ว พบว่า มองไม่เห็น partition of slave hd เพราะไม่ได้ mount
จะใช้ patition magic ดูก็ไม่เห็น partition ที่ clone มา ใช้ tools ใน hiren ชื่อ find partition and mount ก็ได้แค่เห็นว่า มี partition ที่ clone มาแต่ไม่สามารถทำให้ visible ได้
แต่พบ tools ชื่อ disk genius 3.2 ก็สามารถ เรียกใช้ partition ที่ไม่ได้ unmount ได้ โดยทำ rebuild or restore formated partition
วันพุธที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2554
กล้อง cctv h.264 model 9808
การ์ด cctv h.264 model 9808 ติดตั้งบน window xp sp3 ทำหน้าที่เป็น CCTV Server อยู่หลัง firewall ใช้ ubuntu 8.10 เป็น proxy และ gateway
โดยทำการ forward port TCP/IP9000 9001 9002 20009 ตามค่าปรกติ ในเอกสารคู่มืือที่ให้มา
ตอนที่ซื้อมาราคาการ์ด 3000-4000 จำมะได้น่าประมาณนี้ ซื้อมาให้ที่
office ประมาณเดือน 2/2554 และผมมาเขียนบทความให้ทีหลัง
ตอนที่ซื้อมาราคาการ์ด 3000-4000 จำมะได้น่าประมาณนี้ ซื้อมาให้ที่
office ประมาณเดือน 2/2554 และผมมาเขียนบทความให้ทีหลัง
ภาพหน้าต่าง login เมื่อ remote เข้ามาโดย ใช้ internet explorer (บังคับให้ใช้ได้เฉพาะ ie เท่านั้น)
ภาพในเครื่อง cctv server(ด้านล่าง)
ผมได้เขียน สคริปเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถรู้ได้ว่าใครรีโมตเข้ามาในขณะนี้
โดยทำเป็นไฟล์ bat ทำงานบน cctv server ตั้งชื่อ ว่า useron.bat
@echo off
set b=0
:x
cls
set /a b=b+1
echo round = %b% , peroid in second = 5
netstat -n | findstr /i /r "9001"
PING 1.1.1.1 -n 5 -w 1000 > null
if %b% EQU 10 set b=0
goto x
set b=0
:x
cls
set /a b=b+1
echo round = %b% , peroid in second = 5
netstat -n | findstr /i /r "9001"
PING 1.1.1.1 -n 5 -w 1000 > null
if %b% EQU 10 set b=0
goto x
หรือดาวน์โหลดไฟล์ UserOn.bat ได้ที่ลิงค์ http://www.upload-thai.com/download.php?id=22e1d46e301fed04526e47871f50e954
ภาพข้างล่างเมื่อมีเครื่องใดรีโมตเข้ามาดูกล้อง ในวงแลนเดียวกัน
ภาพข้างล่างเมื่อ remote จาก เครื่องข้างนอกเข้ามา
วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2554
รวบรวม script น่าสนใจ 1
1. dhtml HTML event (js ในบรรทัดเดียว) สังเกตไม่ต้องมี ; ต่อท้ายก็ได้
<html>
<body>
<h1 onclick="this.innerHTML='Ooops!'">Click on this text</h1>
</body>
</html>
2. ดู this และการอ้าง id
<html>
<head>
<script type="text/javascript">
function changetext(id)
{
id.innerHTML="Ooops!";
}
</script>
</head>
<body>
<h1 onclick="changetext(this)">Click on this text</h1>
</body>
</html>
หรือ 1 ตัวอย่าง
<html>
<head>
<script type="text/javascript">
function lighton(id)
{
id.src="bulbon.gif";
}
function lightoff(id)
{
id.src="bulboff.gif";
}
</script>
</head>
<body>
<img id="myimage" onmousedown="lighton(this)" onmouseup="lightoff(this)" src="bulboff.gif" width="100" height="180" />
<p>Click and hold to turn on the light!</p>
</body>
</html>
3. การเปลี่ยน style ด้วย html dom
current HTML element this.style.property=new style
<h1 onclick="this.style.color='red'">Click Me!</h1>
specific HTML element document.getElementById(id).style.property=new style
<h1 id="h1" onclick="document.getElementById('h1').style.color='red'">Click Me!</h1>
4.อีก case กรณี current html element ไม่ต้องใส่ this ก็ได้
<html>
<body>
<h1 onmouseover="style.color='red'"
onmouseout="style.color='black'">
Mouse over this text</h1>
</body>
</html>
<html>
<body>
<h1 onclick="this.innerHTML='Ooops!'">Click on this text</h1>
</body>
</html>
2. ดู this และการอ้าง id
<html>
<head>
<script type="text/javascript">
function changetext(id)
{
id.innerHTML="Ooops!";
}
</script>
</head>
<body>
<h1 onclick="changetext(this)">Click on this text</h1>
</body>
</html>
หรือ 1 ตัวอย่าง
<html>
<head>
<script type="text/javascript">
function lighton(id)
{
id.src="bulbon.gif";
}
function lightoff(id)
{
id.src="bulboff.gif";
}
</script>
</head>
<body>
<img id="myimage" onmousedown="lighton(this)" onmouseup="lightoff(this)" src="bulboff.gif" width="100" height="180" />
<p>Click and hold to turn on the light!</p>
</body>
</html>
3. การเปลี่ยน style ด้วย html dom
current HTML element this.style.property=new style
<h1 onclick="this.style.color='red'">Click Me!</h1>
specific HTML element document.getElementById(id).style.property=new style
<h1 id="h1" onclick="document.getElementById('h1').style.color='red'">Click Me!</h1>
4.อีก case กรณี current html element ไม่ต้องใส่ this ก็ได้
<html>
<body>
<h1 onmouseover="style.color='red'"
onmouseout="style.color='black'">
Mouse over this text</h1>
</body>
</html>
วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2554
javascript html dom checkbox
กรณีโค้ดด้านล่าง คือ checkbox ที่สร้างโดย msoffice excel เมือต้องการ เซตค่า กาในช่อง checkbox
<OBJECT class=shape id=sv_ot height=25 width=146
classid=CLSID:8BD21D40-EC42-11CE-9E0D-00AA006002F3 v:shapes =
"_x0000_s1027"><PARAM NAME="VariousPropertyBits" VALUE="1015023635"><PARAM NAME="BackColor" VALUE="14737632"><PARAM NAME="ForeColor" VALUE="2147483656"><PARAM NAME="MaxLength" VALUE="0"><PARAM NAME="BorderStyle" VALUE="0"><PARAM NAME="ScrollBars" VALUE="0"><PARAM NAME="DisplayStyle" VALUE="4"><PARAM NAME="MousePointer" VALUE="0"><PARAM NAME="Size" VALUE="3863;661"><PARAM NAME="PasswordChar" VALUE="0"><PARAM NAME="ListWidth" VALUE="0"><PARAM NAME="BoundColumn" VALUE="1"><PARAM NAME="TextColumn" VALUE="65535"><PARAM NAME="ColumnCount" VALUE="1"><PARAM NAME="ListRows" VALUE="8"><PARAM NAME="cColumnInfo" VALUE="0"><PARAM NAME="MatchEntry" VALUE="2"><PARAM NAME="ListStyle" VALUE="0"><PARAM NAME="ShowDropButtonWhen" VALUE="0"><PARAM NAME="ShowListWhen" VALUE="1"><PARAM NAME="DropButtonStyle" VALUE="1"><PARAM NAME="MultiSelect" VALUE="0"><PARAM NAME="Value" VALUE="0"><PARAM NAME="Caption" VALUE="ทำงานล่วงเวลา"><PARAM NAME="PicturePosition" VALUE="458753"><PARAM NAME="BorderColor" VALUE="2147483654"><PARAM NAME="SpecialEffect" VALUE="2"><PARAM NAME="Accelerator" VALUE="0"><PARAM NAME="GroupName" VALUE="Sheet1"><PARAM NAME="FontName" VALUE="Arial"><PARAM NAME="FontEffects" VALUE="1073741824"><PARAM NAME="FontHeight" VALUE="180"><PARAM NAME="FontOffset" VALUE="0"><PARAM NAME="FontCharSet" VALUE="0"><PARAM NAME="FontPitchAndFamily" VALUE="2"><PARAM NAME="ParagraphAlign" VALUE="1"><PARAM NAME="FontWeight" VALUE="400"></OBJECT>
ให้ใช้ javascript
if ("<%=rs2.fields("sv_ot")%>" =="1")
{
document.getElementById("sv_ot").value=true;
}
else
{
document.getElementById("sv_ot").value=false;
}
<OBJECT class=shape id=sv_ot height=25 width=146
classid=CLSID:8BD21D40-EC42-11CE-9E0D-00AA006002F3 v:shapes =
"_x0000_s1027"><PARAM NAME="VariousPropertyBits" VALUE="1015023635"><PARAM NAME="BackColor" VALUE="14737632"><PARAM NAME="ForeColor" VALUE="2147483656"><PARAM NAME="MaxLength" VALUE="0"><PARAM NAME="BorderStyle" VALUE="0"><PARAM NAME="ScrollBars" VALUE="0"><PARAM NAME="DisplayStyle" VALUE="4"><PARAM NAME="MousePointer" VALUE="0"><PARAM NAME="Size" VALUE="3863;661"><PARAM NAME="PasswordChar" VALUE="0"><PARAM NAME="ListWidth" VALUE="0"><PARAM NAME="BoundColumn" VALUE="1"><PARAM NAME="TextColumn" VALUE="65535"><PARAM NAME="ColumnCount" VALUE="1"><PARAM NAME="ListRows" VALUE="8"><PARAM NAME="cColumnInfo" VALUE="0"><PARAM NAME="MatchEntry" VALUE="2"><PARAM NAME="ListStyle" VALUE="0"><PARAM NAME="ShowDropButtonWhen" VALUE="0"><PARAM NAME="ShowListWhen" VALUE="1"><PARAM NAME="DropButtonStyle" VALUE="1"><PARAM NAME="MultiSelect" VALUE="0"><PARAM NAME="Value" VALUE="0"><PARAM NAME="Caption" VALUE="ทำงานล่วงเวลา"><PARAM NAME="PicturePosition" VALUE="458753"><PARAM NAME="BorderColor" VALUE="2147483654"><PARAM NAME="SpecialEffect" VALUE="2"><PARAM NAME="Accelerator" VALUE="0"><PARAM NAME="GroupName" VALUE="Sheet1"><PARAM NAME="FontName" VALUE="Arial"><PARAM NAME="FontEffects" VALUE="1073741824"><PARAM NAME="FontHeight" VALUE="180"><PARAM NAME="FontOffset" VALUE="0"><PARAM NAME="FontCharSet" VALUE="0"><PARAM NAME="FontPitchAndFamily" VALUE="2"><PARAM NAME="ParagraphAlign" VALUE="1"><PARAM NAME="FontWeight" VALUE="400"></OBJECT>
ให้ใช้ javascript
if ("<%=rs2.fields("sv_ot")%>" =="1")
{
document.getElementById("sv_ot").value=true;
}
else
{
document.getElementById("sv_ot").value=false;
}
unterminated string constant error
error เกิดจาก บางส่วนในข้อความภายใน พบ vbcrlf หรือ chr(10)และ chr(13)
ทำให้เกิด unterminated string constant error ทำให้ไม่สามารถแสดงผมได้ เมื่อเขียนด้วย
javascirpt หรือ vbscript
วิธีแก้ ให้ ทำการ replace ค่า vbcrlf เป็น ค่าว่าง หรือ "" ก็ไม่เกิด error
ข้างล่างโค้ดตัวอย่าง
<%
'col5 sv_detaillocation
col5 =rs2.fields("sv_detaillocation")
col5=Replace(col5,vbcrlf,"")
sp_col5=Split(col5,"]")
j=5
For i=0 To 9
datacol5=Mid(sp_col5(i),2)
irowcol= "r" & i+1 & j
%>
<script language=JavaScript>
document.getElementById("<%=irowcol%>").innerHTML="<%=datacol5%>";
</script>
<%
Next
%>
ทำให้เกิด unterminated string constant error ทำให้ไม่สามารถแสดงผมได้ เมื่อเขียนด้วย
javascirpt หรือ vbscript
วิธีแก้ ให้ ทำการ replace ค่า vbcrlf เป็น ค่าว่าง หรือ "" ก็ไม่เกิด error
ข้างล่างโค้ดตัวอย่าง
<%
'col5 sv_detaillocation
col5 =rs2.fields("sv_detaillocation")
col5=Replace(col5,vbcrlf,"")
sp_col5=Split(col5,"]")
j=5
For i=0 To 9
datacol5=Mid(sp_col5(i),2)
irowcol= "r" & i+1 & j
%>
<script language=JavaScript>
document.getElementById("<%=irowcol%>").innerHTML="<%=datacol5%>";
</script>
<%
Next
%>
วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554
วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2554
mu central world
งาน เปิดตัวมิว บูล mu blue 7/8/2554
www.muo.in.th
ผมไปในงานมา ก็เลยถ่ายรูปเก็บมาไว้ เพราะปรกติไม่ค่อยชอบออกไปไหนเท่าไร
ถ้าเป็นร้านเนต
-จะได้ แบนเนอร์ ให้มีชื่อร้านได้
- ac 5 ac
-ได้ อีก 1 ac ใช้ close beta
-ได้ item devil ใช้ open
-โปรเตอร์ 2 แผ่น
www.muo.in.th
ผมไปในงานมา ก็เลยถ่ายรูปเก็บมาไว้ เพราะปรกติไม่ค่อยชอบออกไปไหนเท่าไร
ถ้าเป็นร้านเนต
-จะได้ แบนเนอร์ ให้มีชื่อร้านได้
- ac 5 ac
-ได้ อีก 1 ac ใช้ close beta
-ได้ item devil ใช้ open
-โปรเตอร์ 2 แผ่น
วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2554
favicon image to icon online
http://www.prodraw.net/favicon/generator.php
การทำ favicon.ico โดยการโหลด ภาพ image ใดๆ ให้ทาง web service แปลงภาพให้เป็น .ico โดยให้เรากำหนดขนาดได้ เช่น 16*16
Tips for FavIcon: Download above favicon.ico file and upload it to your website. Then add the code below after your <head> tag in your HTML:
<link rel="shortcut icon" href="favicon.ico" >
16*16
24*24
32*32
การทำ favicon.ico โดยการโหลด ภาพ image ใดๆ ให้ทาง web service แปลงภาพให้เป็น .ico โดยให้เรากำหนดขนาดได้ เช่น 16*16
Tips for FavIcon: Download above favicon.ico file and upload it to your website. Then add the code below after your <head> tag in your HTML:
<link rel="shortcut icon" href="favicon.ico" >
16*16
24*24
32*32
map google ร้านจีเทค
ร้านจีเทค 80/18 ซ.รามคำแหง24 แยก8 ถ.รามคำแหง24 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ
โทร 02-718-8228 02-718-9193
ดู ร้านจีเทค เนต&เกมส์ ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า
"this code for google map ร้านจีเทค"
<iframe width="425" height="350" frameborder="0" scrolling="no" marginheight="0" marginwidth="0" src="http://maps.google.com/maps/ms?f=q&source=s_q&hl=th&geocode=&aq=&ie=UTF8&msa=0&msid=204409339073533196340.0004a8bfffb882f24b5b0&sll=13.771413,100.690193&sspn=0.588875,1.056747&ll=13.754851,100.619745&spn=0.01459,0.018239&z=15&output=embed"></iframe><br /><small>ดู <a href="http://maps.google.com/maps/ms?f=q&source=embed&hl=th&geocode=&aq=&ie=UTF8&msa=0&msid=204409339073533196340.0004a8bfffb882f24b5b0&sll=13.771413,100.690193&sspn=0.588875,1.056747&ll=13.754851,100.619745&spn=0.01459,0.018239&z=15" style="color:#0000FF;text-align:left">ร้านจีเทค เนต&เกมส์</a> ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า</small>
"this image"
โทร 02-718-8228 02-718-9193
ดู ร้านจีเทค เนต&เกมส์ ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า
"this code for google map ร้านจีเทค"
<iframe width="425" height="350" frameborder="0" scrolling="no" marginheight="0" marginwidth="0" src="http://maps.google.com/maps/ms?f=q&source=s_q&hl=th&geocode=&aq=&ie=UTF8&msa=0&msid=204409339073533196340.0004a8bfffb882f24b5b0&sll=13.771413,100.690193&sspn=0.588875,1.056747&ll=13.754851,100.619745&spn=0.01459,0.018239&z=15&output=embed"></iframe><br /><small>ดู <a href="http://maps.google.com/maps/ms?f=q&source=embed&hl=th&geocode=&aq=&ie=UTF8&msa=0&msid=204409339073533196340.0004a8bfffb882f24b5b0&sll=13.771413,100.690193&sspn=0.588875,1.056747&ll=13.754851,100.619745&spn=0.01459,0.018239&z=15" style="color:#0000FF;text-align:left">ร้านจีเทค เนต&เกมส์</a> ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า</small>
"this image"
วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
display code html
display code html การแสดงโค้ด html บนหน้าเว็บ
ลำบากเหลือหลายเมื่อต้องการแสดงตัวอย่างโค้ด ให้สหายผู้เป็นที่รักได้เห็น ผ่านทางหน้าเว็บ เพราะเมื่อเราป้อนโค้ดเข้าไป เวลาแสดงผล มันดันทะลึ่งประมวลผล ทำให้ออกมาเป็นอะไร ที่ไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็น
มีวิธีง่ายๆ สำหรับงานนี้ด้วย find and replace ผมจะใช้ dreamweaver ช่วยละกัน แล้วอะไรล่ะที่เราต้องค้นหาและแทนที่มัน
1. เครื่องหมาย < 2. เครื่องหมาย >
3. ขึ้นบรรทัดใหม่
4. แท็บ
สองอย่างหลังนี่ เพื่อความสวยงามของผลลัพธ์
การเปิด find and replace ของ Dreamweaver ให้กดปุ่ม Ctrl+F
เครื่องหมาย < แทนที่ด้วย < เครื่องหมาย > แทนที่ด้วย >
ขึ้นบรรทัดใหม่ ในช่อง Find ให้กดปุ่ม Ctrl ค้างไว้ แล้วกด Enter จะเป็นการหา ขึ้นบรรทัดใหม่ แทนที่ด้วย
แท็บ ในช่อง Find ให้กดปุ่ม Ctrl ค้างไว้ แล้วกดแท็บ จะเป็นการหา แท็บ แทนที่ด้วย สัก 4 ตัว
ก้อปปี้สิ่งที่ได้ ไปใช้ตามต้องการ
เครดิตจาก http://www.select2web.com/other/display-code-html.html
ลำบากเหลือหลายเมื่อต้องการแสดงตัวอย่างโค้ด ให้สหายผู้เป็นที่รักได้เห็น ผ่านทางหน้าเว็บ เพราะเมื่อเราป้อนโค้ดเข้าไป เวลาแสดงผล มันดันทะลึ่งประมวลผล ทำให้ออกมาเป็นอะไร ที่ไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็น
มีวิธีง่ายๆ สำหรับงานนี้ด้วย find and replace ผมจะใช้ dreamweaver ช่วยละกัน แล้วอะไรล่ะที่เราต้องค้นหาและแทนที่มัน
1. เครื่องหมาย < 2. เครื่องหมาย >
3. ขึ้นบรรทัดใหม่
4. แท็บ
สองอย่างหลังนี่ เพื่อความสวยงามของผลลัพธ์
การเปิด find and replace ของ Dreamweaver ให้กดปุ่ม Ctrl+F
เครื่องหมาย < แทนที่ด้วย < เครื่องหมาย > แทนที่ด้วย >
ขึ้นบรรทัดใหม่ ในช่อง Find ให้กดปุ่ม Ctrl ค้างไว้ แล้วกด Enter จะเป็นการหา ขึ้นบรรทัดใหม่ แทนที่ด้วย
แท็บ ในช่อง Find ให้กดปุ่ม Ctrl ค้างไว้ แล้วกดแท็บ จะเป็นการหา แท็บ แทนที่ด้วย สัก 4 ตัว
ก้อปปี้สิ่งที่ได้ ไปใช้ตามต้องการ
เครดิตจาก http://www.select2web.com/other/display-code-html.html
datediff javascript
datediff นำมาใช้ใน salary web ใบสลิิปเงินเดือน ให้ output เป็น จำนวนปี เดือน วัน เมื่อนำ 2 วันที่มาหาผลต่าง
้เช่น 7/4/2004 ถึง 7/30/2011 (รูปแแบบ ด/ว/ปี คศ.) ให้ผลเป็น 7 ปี 0 เดือน 26 วัน
<%
'find agejob
set rs1=Server.CreateObject("ADODB.recordset")
sql="SELECT emp_begindate FROM tblemployee "
sql=sql & "WHERE empid='" & id &"';"
rs1.Open sql, conn
%>
<script language=JavaScript>
var startDate="<%=rs1.fields("emp_begindate")%>"
function getTimeBetween(from, until) {
var past = from== " " ? new Date() : new Date(from) ;
var future = until == " " ? new Date() : new Date(until);
if(past>= future) {
var tmp = past ;
past = future ;
future = tmp ;
}
var between = [ future.getFullYear() - past.getFullYear(),
future.getMonth() - past.getMonth(),
future.getDate() - past.getDate()]
if (between[2] < 0){
between[1] -- ;
var ynum = future.getFullYear();
var mlengths =[31, (ynum %4 == 0 && ynum%100 != 0 || ynum%400 ==0) ? 29 : 28, 31, 30, 31, 30, 31, 31, 30, 31, 30, 31] ;
var mnum = future.getMonth() - 1;
if(mnum < 0) { mnum += 12; }
between[2] += mlengths[mnum] ;
}
if (between[1] < 0){
between[0]--;
between[1] += 12;
}
return between ;
}
var curDate=new Date();
var myDate=new Date();
var endDate=new Date();
sp=startDate.split("/");
var dd=Number(sp[2]);
//alert(dd);
if (dd > 2500) //แก้ไขเมือปี 2600 อีกที
{
sp[2]=sp[2]-543;
}
startDate=sp[1]+"-"+sp[0]+"-"+sp[2];
endDate=(myDate.getMonth()+1)+"-"+myDate.getDate()+"-"+myDate.getFullYear();
//alert(startDate+" " + endDate);
var until = getTimeBetween(startDate, endDate) ; //เปลี่ยนวันที่ตรงนี้ m/d/year
//alert(until[0] + " years " + until[1] + " months "+ until[2] + " days " + until[3]+" hours " + until[4] + " minutes " + until[5] + " seconds");
document.getElementById("agejob").innerHTML=until[0]+" ปี "+until[1]+" เดือน "+ until[2]+" วัน";
<%rs1.close%>
</script>
ด้านล่างให้เครดิตแก่ http://www.thaicreate.com/php/forum/029180.html
้เช่น 7/4/2004 ถึง 7/30/2011 (รูปแแบบ ด/ว/ปี คศ.) ให้ผลเป็น 7 ปี 0 เดือน 26 วัน
<%
'find agejob
set rs1=Server.CreateObject("ADODB.recordset")
sql="SELECT emp_begindate FROM tblemployee "
sql=sql & "WHERE empid='" & id &"';"
rs1.Open sql, conn
%>
<script language=JavaScript>
var startDate="<%=rs1.fields("emp_begindate")%>"
function getTimeBetween(from, until) {
var past = from== " " ? new Date() : new Date(from) ;
var future = until == " " ? new Date() : new Date(until);
if(past>= future) {
var tmp = past ;
past = future ;
future = tmp ;
}
var between = [ future.getFullYear() - past.getFullYear(),
future.getMonth() - past.getMonth(),
future.getDate() - past.getDate()]
if (between[2] < 0){
between[1] -- ;
var ynum = future.getFullYear();
var mlengths =[31, (ynum %4 == 0 && ynum%100 != 0 || ynum%400 ==0) ? 29 : 28, 31, 30, 31, 30, 31, 31, 30, 31, 30, 31] ;
var mnum = future.getMonth() - 1;
if(mnum < 0) { mnum += 12; }
between[2] += mlengths[mnum] ;
}
if (between[1] < 0){
between[0]--;
between[1] += 12;
}
return between ;
}
var curDate=new Date();
var myDate=new Date();
var endDate=new Date();
sp=startDate.split("/");
var dd=Number(sp[2]);
//alert(dd);
if (dd > 2500) //แก้ไขเมือปี 2600 อีกที
{
sp[2]=sp[2]-543;
}
startDate=sp[1]+"-"+sp[0]+"-"+sp[2];
endDate=(myDate.getMonth()+1)+"-"+myDate.getDate()+"-"+myDate.getFullYear();
//alert(startDate+" " + endDate);
var until = getTimeBetween(startDate, endDate) ; //เปลี่ยนวันที่ตรงนี้ m/d/year
//alert(until[0] + " years " + until[1] + " months "+ until[2] + " days " + until[3]+" hours " + until[4] + " minutes " + until[5] + " seconds");
document.getElementById("agejob").innerHTML=until[0]+" ปี "+until[1]+" เดือน "+ until[2]+" วัน";
<%rs1.close%>
</script>
ด้านล่างให้เครดิตแก่ http://www.thaicreate.com/php/forum/029180.html
function getTimeBetween(from, until) { var past = from== " " ? new Date() : new Date(from) ; var future = until == " " ? new Date() : new Date(until); if(past>= future) { var tmp = past ; past = future ; future = tmp ; } var between = [ future.getFullYear() - past.getFullYear(), future.getMonth() - past.getMonth(), future.getDate() - past.getDate(), future.getHours() - past.getHours(), future.getMinutes() - past.getMinutes(), future.getSeconds() - past.getSeconds()]; if (between[2] < 0){ between[1] -- ; var ynum = future.getFullYear(); var mlengths =[31, (ynum %4 == 0 && ynum%100 != 0 || ynum%400 ==0) ? 29 : 28, 31, 30, 31, 30, 31, 31, 30, 31, 30, 31] ; var mnum = future.getMonth() - 1; if(mnum < 0) { mnum += 12; } between[2] += mlengths[mnum] ; } if (between[1] < 0){ between[0]--; between[1] += 12; } if (between[5]< 0){ between[4]--; between[5] += 60; } if (between[4]< 0){ between[3]--; between[4] += 60; } if (between[3]< 0){ between[2]--; between[3] += 24; } return between ; } var until = getTimeBetween("13 Jul, 2009", "sep 02, 2009") ; //เปลี่ยนวันที่ตรงนี้ alert(until[0] + " years " + until[1] + " months "+ until[2] + " days " + until[3]+" hours " + until[4] + " minutes " + until[5] + " seconds");
วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
asp
เคยเป็นไหม แก้ไขโค็ดใน asp ด้วย editplus แล้ว สั่งเซฟ แต่ ie7 ก็ยังไม่ไปใช้สคริปที่แก้ไขใหม่ ทั้งที่เคลี่ยร์ แคชแล้ว
วิธีิแก้ รีบูตเครื่องใหม่อะคับ หายเลยอาการนี้ (ผมอาจจะสงสัยไปได้อีกว่า แคชที่เคลี่ยร์ไปไม่ได้เคลี่ยร์ไปจริงๆ)
วิธีิแก้ รีบูตเครื่องใหม่อะคับ หายเลยอาการนี้ (ผมอาจจะสงสัยไปได้อีกว่า แคชที่เคลี่ยร์ไปไม่ได้เคลี่ยร์ไปจริงๆ)
gps+agps
GPS และ AGPS แตกต่างกันอย่างไร?
« เมื่อ: ศุกร์ 25 เมษายน 2008,12:26:00 »
ลองมารู้จักกับ GPS และ AGPS กันหน่อยครับเทคโนโลยีนี้เห็นได้ในมือถือหลายๆรุ่น.... รวมทั้ง C702 ที่จะออกเดือน มิย.นี้ด้วย
GPS มีการทำงานและข้อจำกัดอย่างไร
การทำงาน : ดาวเทียมทุกดวงที่โคจรอยู่บนท้องฟ้าจะมีการส่งสัญญาณ GPS มาที่พื้นดินเพื่อที่จะเป็นการบอกพิกัดของตัวเองต่อสถานีควบคุม ข้อจำกัดคือดาวเทียมไม่สามารถใช้พลังงานได้สูงมากนักเนื่องจากพลังงานทั้ง หมดได้จากพลังงานแสงอาทิตย์ ดังนั้น กำลังส่งของสัญญาณ GPS จึงมีขนาดเล็กมาก นี้คือสาเหตุที่สำคัญที่ทำให้
1. เครื่องรับ GPS ต้องมีความไวสูงมากๆ เพื่อให้สามารถที่จะรับสัญญาณ GPS จากดาวเทียม ซึ่งโคจรอยู่ระยะประมาณ 40,000 km จากพื้นดินและสัญญาณที่ภาคพื้นดินมีขนาดเล็กมากๆ
2. ผลจากข้อที่ 1 ทำให้เครื่องรับ GPS จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้า ในส่วน ภาครับเป็นจำนวนมากโดยส่วนนี้จะทำหน้าที่ทั้งกรองสัญญาณที่รบกวนออกจาก สัญญาณ GPS แล้วทำการขยายสัญญาณ แล้วนำไปถอดรหัสในส่วน Digital ดังนั้นโดยทั่วไปเครื่องรับจึงมีอุปกรณ์จำนวนมาก เราจึงเรียกมันว่า Chipset
3. จากข้อที่ 2 ภาคทีเป็นระบบ Digital จะมี MCU เป็นพระเอกในการ คำนวณและถอดรหัสต่างๆ โดยปกติจะเป็น MCU ที่มีความสามารถใน การคำนวณอย่างมาก ดังนั้นจึงนิยมใช้ MCU แบบ 32 บิต (ข้อ 1-3 ทำให้กินไฟประมาณ 80-200 mA.)
4. หากสัญญาณ GPS ที่เครื่องรับและเครื่องส่งไม่ตรงกัน(Synchronize)งาน นี้เราจะไม่สามารถถอดรหัสได้เลย ดังนั้น GPS หากต้องการบอกพิกัดได้ จึงไม่สามารถปิดเครื่องได้ จำเป็นต้องเปิดตลอดเวลา
5. เนื่องจากสัญญาณ GPS ที่ตกกระทบภาคพื้นดินมีขนาดเล็กมาก ดังนั้นมัน จึงง่ายต่อการถูกรบกวน การที่จะให้ได้สัญญาณ ที่แรงและดีสุดคืออย่าให้มีสิ่งกีดขวาง เครื่องรับ GPS ส่วนใหญ่จึงมีเสาอากาศแบบ ภายนอก และติดตั้งในที่โล่งแจ้ง จนเป็นที่มาไม่เห็นท้องฟ้าก็จะรับสัญญาณ GPS ไม่ได้
จากข้อ 1-5 จึงทำให้เป็นที่ถกเถียงกันในหมู่นักวิจัยว่าเราจะแก้ปัญหาหรือพัฒนา GPS ให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้อย่างไร จึงเกิดการถกเถียง ตามมา
1. การเพิ่มกำลังส่งที่เครื่องส่ง GPS ที่ดาวเทียม ข้อนี้ ลืมได้เลย เพราะเรื่องพลังงานไฟฟ้าที่ดาวเทียมยังเป็นข้อจำกัดอยู่ การปรับเรื่องนี้คงอีกหลายสิบปี
2. ออกแบบภาครับให้มีความไวสูงขึ้นโดยอุปกรณ์ที่มีสัญญาณรบกวนต่ำ อันนี้มีการทำแล้วโดยพบใน GPS รุ่นปัจจุบัน รวมทั้ง A-GPS
3. การลดจำนวนอุปกรณ์ในเครื่องรับลงเพื่อให้มีขนาดเล็กลงและกิน ไฟฟ้าน้อยลง อันนี้มีการดำเนินการได้ โดยการใช้ MCU เฉพาะที่ออกแบบในการคำนวณและกินไฟต่ำ ซึ่งเป็น Chipset ที่ปรากฏใน GPS รุ่นปัจจุบัน
4. ปิดเครื่องเมื่อไม่ใช้แล้วเปิดเครื่องเมื่อต้องการใช้ เรื่องนี้เป็นที่ถกเถียงกันอย่างมาก หากทำเช่นนั้น สัญญาณ GPS ก็จะไม่เกิดการ Synchronize เราก็จะรับสัญญาณไม่ได้ ประกอบกับ วงโคจรของดาวเทียมจะเปลี่ยนไปตลอดเวลา การ Synchronize จึงทำได้ยากมากขึ้น จึงมีการคิดค้นว่าหากเราสามารถส่งวงโคจรของดาวเทียมที่เปลี่ยนไปให้ Chipset ได้รับรู้โดยไม่จำเป็นต้องรับสัญญาณจาก GPS โดยตรงจะทำได้หรือไม่ ผลคือทำได้ โดยการออกแบบให้ Chipset สามารถรับสัญญาณตำแหน่งดาวเทียมในรูปแบบสัญญาณ Digital ปกติ โดยไม่ต้องถอดรหัส โดยสัญญาณที่ได้จะถูกส่งมาจาก Base Station (เครื่อง GPS ที่รับสัญญาณตลอดเวลา และมีระบบส่งต่อสัญญาณไปยัง เครื่อง GPS อื่นๆ เมื่อมีการร้องขอ) เราเรียกระบบนี้ว่า Net Assisted ปัจจุบันนิยมใช้ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
5. หากเครื่อง GPS มีการปิดเครื่องแล้วไปเปิดอีกที เครื่องจะต้องทำการ Sync กับดาวเทียม ก่อนการ Sync จะเกิดได้อย่างรวดเร็วก็ต่อเมื่อตำแหน่งสุดท้ายหรือตำแหน่งที่เราปิดเครื่อง ไม่ห่างจากตำแหน่งที่เราเปิดเครื่องอีกครั้ง ดังนั้น GPS ทุกรุ่นจึงมีการจดจำตำแน่งเดิมก่อนปิดเครื่อง อย่างไรก็ตามปัญหาก็จะเกิดเมื่อ ตำแหน่งที่เราปิดเครื่องและเปิดอีกครั้งอย่างห่างกัน เช่นปิดเครื่องที่สนามบินดอนเมือง เปิดอีกที่ ที่สนามบินเชียงใหม่ GPS จะทำงานได้ช้ามาก และยิ่งไม่มีการรับหรือ update ตำแหน่งดาวเทียม งานนี้นานอย่าบอกใคร ดังนั้น จึงมีคำถามว่าอย่างนั้นเราจะบอกตำแหน่งคราวๆ ของ เครื่อง GPS ได้ไหม เพื่อ เป็นการง่ายในการที่จะ Sync และ คำนวณพิกัด หรือ บอกตำแหน่งได้อย่างรวดเร็ว ระบบ GPS ที่รับตำแหน่ง เข้าไป เราเรื่องระบบการช่วยเหลือแบบนี้ว่า Last Know Location Aiding. เอ้า .....แล้วเราจะรู้ตำแหน่งของเครื่องเราเมื่อเปิดได้อย่างไร และจะขอ Location Aiding ได้อย่างไร ? หากลำพัง GPS อย่างเดียวเราไม่สามารถทำได้ครับ เราเลยต้องมีการเชื่อมต่อ สัญญาณเข้ามาที่เครือข่าย โชคดีที่ GPS ส่วนใหญ่เคลื่อนที่ ดังนั้นการเชื่อมต่อเข้าเครือข่ายจึงเป็นไปได้ทางเดียวคือผ่านเครื่องมือถือ ดังนั้นระบบช่วยเหลือ จึงสามารถบอกตำแหน่งคราวๆ ของเครื่อง GPS ที่ร้องขอความช่วยเหลือมาได้ โดยการส่งตำแหน่ง Cell ID Location (Cell ID Location Aiding)ไปให้ จึงทำให้คนทั่วไปสับสนว่า A-GPS อ้างพิกัดตำแหน่งโดย Cell ID จึงมีความผิดพลาดสูง นี้เป็นความเข้าใจผิดอย่างแรง
6. หลังจาก ที่ A-GPS ได้รับ Net Assist , Location Aiding แล้ว GPS จะได้ Time Aiding จาก Server อีก ดังนั้น สิ่งเดียวที่เหลือคือการ รับสัญญาณ โดยตรงจากดาวเทียม ซึ่ง A-GPS ส่วนใหญ่แล้วจะมีภาครับที่มีความไวสูงกว่า GPS(อุปกรณ์ดีกว่าและใช้เทคโนโลยีใหม่กว่า) ปกติ 5-10 เท่า ดังนั้น เครื่อง A-GPS จึงสามารถทำงานหรือเปิดเครื่องในที่อับสัญญาณได้ หากใช้บริการ ความช่วยเหลือ จาก Server และ Base Station ดังนั้น หากใช้ A-GPS แบบเต็มระบบ การเปิดปิดเครื่อง GPS จึงไม่เป็นอุปสรรค ผลก็คือ ทำให้เราสามารถประหยัดพลังงานแบตเตอรีได้ ดังนั้น แนวโน้ม 1-2 ปี ผมคิดว่า A-GPS จะเข้ามาแทนที่ GPS ทั้งหมด ด้วยเหตุผลที่กล่าวมา
AGPS (Assistance GPS)
เป็นระบบช่วยเหลือการทำงานของ GPS ให้มีการเริ่มทำงานได้อย่างรวดเร็ว และมีความแม่นยำสูงยิ่งขึ้นโดยมีการรับข้อมูลที่จำเป็นในการเริ่มต้นการทำงานของ GPS Receiver รวบรวมไว้ในServer ที่ทำการเชื่อมต่อกับจานรับสัญญาณดาวเทียมตลอดเวลาเมื่อ GPS Receiver เริ่มทำงานจะติดต่อกับServer ผ่านทาง Network ข้อมูลเบื้องต้นในการคำนวณต่างๆ จะถูกส่งผ่านNetwork เพื่อเป็นค่าเริ่มต้นในการทำงานทำให้ลดเวลาในการเริ่มต้นให้ลดลงเหลือเพียงไม่ถึง 3 วินาทีในสภาวะสัญญาณอ่อนการทำงาน (ปกติจะอยู่ที่ 15-30 วินาที ในที่ระดับสัญญาณปกติ และ 1 นาทีขึ้นไปในระดับสัญญาณอ่อน)สามารถใช้งาน GPS ได้เมื่ออยู่ในที่อับสัญญาณแต่เนื่องจากต้องติดต่อกับเครื่อข่ายมือถือจึงเสียค่าบริการ Gprs/edge ในการใช้งานครับ
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=bwon&date=07-02-2008&group=2&gblog=8
http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=153927
http://www.thaitelecom.com/pub2004/news.php?ID=00011755&Keyword=
« เมื่อ: ศุกร์ 25 เมษายน 2008,12:26:00 »
ลองมารู้จักกับ GPS และ AGPS กันหน่อยครับเทคโนโลยีนี้เห็นได้ในมือถือหลายๆรุ่น.... รวมทั้ง C702 ที่จะออกเดือน มิย.นี้ด้วย
GPS มีการทำงานและข้อจำกัดอย่างไร
การทำงาน : ดาวเทียมทุกดวงที่โคจรอยู่บนท้องฟ้าจะมีการส่งสัญญาณ GPS มาที่พื้นดินเพื่อที่จะเป็นการบอกพิกัดของตัวเองต่อสถานีควบคุม ข้อจำกัดคือดาวเทียมไม่สามารถใช้พลังงานได้สูงมากนักเนื่องจากพลังงานทั้ง หมดได้จากพลังงานแสงอาทิตย์ ดังนั้น กำลังส่งของสัญญาณ GPS จึงมีขนาดเล็กมาก นี้คือสาเหตุที่สำคัญที่ทำให้
1. เครื่องรับ GPS ต้องมีความไวสูงมากๆ เพื่อให้สามารถที่จะรับสัญญาณ GPS จากดาวเทียม ซึ่งโคจรอยู่ระยะประมาณ 40,000 km จากพื้นดินและสัญญาณที่ภาคพื้นดินมีขนาดเล็กมากๆ
2. ผลจากข้อที่ 1 ทำให้เครื่องรับ GPS จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้า ในส่วน ภาครับเป็นจำนวนมากโดยส่วนนี้จะทำหน้าที่ทั้งกรองสัญญาณที่รบกวนออกจาก สัญญาณ GPS แล้วทำการขยายสัญญาณ แล้วนำไปถอดรหัสในส่วน Digital ดังนั้นโดยทั่วไปเครื่องรับจึงมีอุปกรณ์จำนวนมาก เราจึงเรียกมันว่า Chipset
3. จากข้อที่ 2 ภาคทีเป็นระบบ Digital จะมี MCU เป็นพระเอกในการ คำนวณและถอดรหัสต่างๆ โดยปกติจะเป็น MCU ที่มีความสามารถใน การคำนวณอย่างมาก ดังนั้นจึงนิยมใช้ MCU แบบ 32 บิต (ข้อ 1-3 ทำให้กินไฟประมาณ 80-200 mA.)
4. หากสัญญาณ GPS ที่เครื่องรับและเครื่องส่งไม่ตรงกัน(Synchronize)งาน นี้เราจะไม่สามารถถอดรหัสได้เลย ดังนั้น GPS หากต้องการบอกพิกัดได้ จึงไม่สามารถปิดเครื่องได้ จำเป็นต้องเปิดตลอดเวลา
5. เนื่องจากสัญญาณ GPS ที่ตกกระทบภาคพื้นดินมีขนาดเล็กมาก ดังนั้นมัน จึงง่ายต่อการถูกรบกวน การที่จะให้ได้สัญญาณ ที่แรงและดีสุดคืออย่าให้มีสิ่งกีดขวาง เครื่องรับ GPS ส่วนใหญ่จึงมีเสาอากาศแบบ ภายนอก และติดตั้งในที่โล่งแจ้ง จนเป็นที่มาไม่เห็นท้องฟ้าก็จะรับสัญญาณ GPS ไม่ได้
จากข้อ 1-5 จึงทำให้เป็นที่ถกเถียงกันในหมู่นักวิจัยว่าเราจะแก้ปัญหาหรือพัฒนา GPS ให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้อย่างไร จึงเกิดการถกเถียง ตามมา
1. การเพิ่มกำลังส่งที่เครื่องส่ง GPS ที่ดาวเทียม ข้อนี้ ลืมได้เลย เพราะเรื่องพลังงานไฟฟ้าที่ดาวเทียมยังเป็นข้อจำกัดอยู่ การปรับเรื่องนี้คงอีกหลายสิบปี
2. ออกแบบภาครับให้มีความไวสูงขึ้นโดยอุปกรณ์ที่มีสัญญาณรบกวนต่ำ อันนี้มีการทำแล้วโดยพบใน GPS รุ่นปัจจุบัน รวมทั้ง A-GPS
3. การลดจำนวนอุปกรณ์ในเครื่องรับลงเพื่อให้มีขนาดเล็กลงและกิน ไฟฟ้าน้อยลง อันนี้มีการดำเนินการได้ โดยการใช้ MCU เฉพาะที่ออกแบบในการคำนวณและกินไฟต่ำ ซึ่งเป็น Chipset ที่ปรากฏใน GPS รุ่นปัจจุบัน
4. ปิดเครื่องเมื่อไม่ใช้แล้วเปิดเครื่องเมื่อต้องการใช้ เรื่องนี้เป็นที่ถกเถียงกันอย่างมาก หากทำเช่นนั้น สัญญาณ GPS ก็จะไม่เกิดการ Synchronize เราก็จะรับสัญญาณไม่ได้ ประกอบกับ วงโคจรของดาวเทียมจะเปลี่ยนไปตลอดเวลา การ Synchronize จึงทำได้ยากมากขึ้น จึงมีการคิดค้นว่าหากเราสามารถส่งวงโคจรของดาวเทียมที่เปลี่ยนไปให้ Chipset ได้รับรู้โดยไม่จำเป็นต้องรับสัญญาณจาก GPS โดยตรงจะทำได้หรือไม่ ผลคือทำได้ โดยการออกแบบให้ Chipset สามารถรับสัญญาณตำแหน่งดาวเทียมในรูปแบบสัญญาณ Digital ปกติ โดยไม่ต้องถอดรหัส โดยสัญญาณที่ได้จะถูกส่งมาจาก Base Station (เครื่อง GPS ที่รับสัญญาณตลอดเวลา และมีระบบส่งต่อสัญญาณไปยัง เครื่อง GPS อื่นๆ เมื่อมีการร้องขอ) เราเรียกระบบนี้ว่า Net Assisted ปัจจุบันนิยมใช้ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
5. หากเครื่อง GPS มีการปิดเครื่องแล้วไปเปิดอีกที เครื่องจะต้องทำการ Sync กับดาวเทียม ก่อนการ Sync จะเกิดได้อย่างรวดเร็วก็ต่อเมื่อตำแหน่งสุดท้ายหรือตำแหน่งที่เราปิดเครื่อง ไม่ห่างจากตำแหน่งที่เราเปิดเครื่องอีกครั้ง ดังนั้น GPS ทุกรุ่นจึงมีการจดจำตำแน่งเดิมก่อนปิดเครื่อง อย่างไรก็ตามปัญหาก็จะเกิดเมื่อ ตำแหน่งที่เราปิดเครื่องและเปิดอีกครั้งอย่างห่างกัน เช่นปิดเครื่องที่สนามบินดอนเมือง เปิดอีกที่ ที่สนามบินเชียงใหม่ GPS จะทำงานได้ช้ามาก และยิ่งไม่มีการรับหรือ update ตำแหน่งดาวเทียม งานนี้นานอย่าบอกใคร ดังนั้น จึงมีคำถามว่าอย่างนั้นเราจะบอกตำแหน่งคราวๆ ของ เครื่อง GPS ได้ไหม เพื่อ เป็นการง่ายในการที่จะ Sync และ คำนวณพิกัด หรือ บอกตำแหน่งได้อย่างรวดเร็ว ระบบ GPS ที่รับตำแหน่ง เข้าไป เราเรื่องระบบการช่วยเหลือแบบนี้ว่า Last Know Location Aiding. เอ้า .....แล้วเราจะรู้ตำแหน่งของเครื่องเราเมื่อเปิดได้อย่างไร และจะขอ Location Aiding ได้อย่างไร ? หากลำพัง GPS อย่างเดียวเราไม่สามารถทำได้ครับ เราเลยต้องมีการเชื่อมต่อ สัญญาณเข้ามาที่เครือข่าย โชคดีที่ GPS ส่วนใหญ่เคลื่อนที่ ดังนั้นการเชื่อมต่อเข้าเครือข่ายจึงเป็นไปได้ทางเดียวคือผ่านเครื่องมือถือ ดังนั้นระบบช่วยเหลือ จึงสามารถบอกตำแหน่งคราวๆ ของเครื่อง GPS ที่ร้องขอความช่วยเหลือมาได้ โดยการส่งตำแหน่ง Cell ID Location (Cell ID Location Aiding)ไปให้ จึงทำให้คนทั่วไปสับสนว่า A-GPS อ้างพิกัดตำแหน่งโดย Cell ID จึงมีความผิดพลาดสูง นี้เป็นความเข้าใจผิดอย่างแรง
6. หลังจาก ที่ A-GPS ได้รับ Net Assist , Location Aiding แล้ว GPS จะได้ Time Aiding จาก Server อีก ดังนั้น สิ่งเดียวที่เหลือคือการ รับสัญญาณ โดยตรงจากดาวเทียม ซึ่ง A-GPS ส่วนใหญ่แล้วจะมีภาครับที่มีความไวสูงกว่า GPS(อุปกรณ์ดีกว่าและใช้เทคโนโลยีใหม่กว่า) ปกติ 5-10 เท่า ดังนั้น เครื่อง A-GPS จึงสามารถทำงานหรือเปิดเครื่องในที่อับสัญญาณได้ หากใช้บริการ ความช่วยเหลือ จาก Server และ Base Station ดังนั้น หากใช้ A-GPS แบบเต็มระบบ การเปิดปิดเครื่อง GPS จึงไม่เป็นอุปสรรค ผลก็คือ ทำให้เราสามารถประหยัดพลังงานแบตเตอรีได้ ดังนั้น แนวโน้ม 1-2 ปี ผมคิดว่า A-GPS จะเข้ามาแทนที่ GPS ทั้งหมด ด้วยเหตุผลที่กล่าวมา
AGPS (Assistance GPS)
เป็นระบบช่วยเหลือการทำงานของ GPS ให้มีการเริ่มทำงานได้อย่างรวดเร็ว และมีความแม่นยำสูงยิ่งขึ้นโดยมีการรับข้อมูลที่จำเป็นในการเริ่มต้นการทำงานของ GPS Receiver รวบรวมไว้ในServer ที่ทำการเชื่อมต่อกับจานรับสัญญาณดาวเทียมตลอดเวลาเมื่อ GPS Receiver เริ่มทำงานจะติดต่อกับServer ผ่านทาง Network ข้อมูลเบื้องต้นในการคำนวณต่างๆ จะถูกส่งผ่านNetwork เพื่อเป็นค่าเริ่มต้นในการทำงานทำให้ลดเวลาในการเริ่มต้นให้ลดลงเหลือเพียงไม่ถึง 3 วินาทีในสภาวะสัญญาณอ่อนการทำงาน (ปกติจะอยู่ที่ 15-30 วินาที ในที่ระดับสัญญาณปกติ และ 1 นาทีขึ้นไปในระดับสัญญาณอ่อน)สามารถใช้งาน GPS ได้เมื่ออยู่ในที่อับสัญญาณแต่เนื่องจากต้องติดต่อกับเครื่อข่ายมือถือจึงเสียค่าบริการ Gprs/edge ในการใช้งานครับ
http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=bwon&date=07-02-2008&group=2&gblog=8
http://www.thaimtb.com/cgi-bin/viewkatoo.pl?id=153927
http://www.thaitelecom.com/pub2004/news.php?ID=00011755&Keyword=
วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
งานรอทำครับ
1.ปรับ dnsใหม่ ที่ร้านเกมส์ maxnet 110.164.252.222 110.164.252.223
2.ทำเรื่อง ads บน thailand yellowpages ปีละ 12000
3.สาย adapter notebook เสีย รอซื้อ
4.ซื้อ android ทำ ระบบ gps
5.สิ้นเดือน 7/54 ส่งโปรแกรม Central SVR
2.ทำเรื่อง ads บน thailand yellowpages ปีละ 12000
3.สาย adapter notebook เสีย รอซื้อ
4.ซื้อ android ทำ ระบบ gps
5.สิ้นเดือน 7/54 ส่งโปรแกรม Central SVR
วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
โปรแกรมเข้าออกงานของพนักงาน GrandAttendance
โปรแกรมเข้าออกงานของพนักงาน GrandAttendanceใช้คู่กับ เครื่องแสกนนิ้วมือ ผมทำ การ Coding ให้รับเฉพาะ นิ้วโป้งมือซ้าย และขวา(แต่จริงๆแล้วจะใช้นิ้วใหนก็ได้ กรณีลายนิ้วมือหาย)
พัฒนาและใช้งานมาตั้งแต่ปี 26/10/2550
ภาพเครื่องสแกนนิ้วมือ
ภาพด้านล่างเมื่อแสกนนิ้วจะปรากฎภาพพนักงาน ชื่อ เวลาเข้า หรือออกเืมื่อสแกนออก ประวัติขาดลามาสาย วันเริ่มเข้าทำงานวันแรก
อายุงาน
ภาพด้านล่าง การจัดการงานเกี่ยวกับ ขาดลาดมาสาย ระบุเหตุหยุดงาน โอที อื่นๆ
ภาพด้านล่าง คือ ส่งออกรายงานไปยัง Excel เพื่อแก้ไขจัดการทำรายงานต่อไป ซึ่่งจะบอก รายละเอียดสถิติ ขาดลามาสาย โอที โอทีสะสม
ในข้อมูลส่วนนี้ จะมีการเชื่อมไปยังโปรแกรมเงินเดือน ซึ่งเป็น web app ทำงานผ่าน browser ie7 เพื่อส่งต่อให้ ผู้บริหารจัดการงานเงินเดือนได้
จากที่บ้าน และพิมพ์สลิปเงินเดือนได้
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)